ทาลิปสติก แบบไหนให้ติดทน เนื้อลิปแบบไหนก็ไม่หลุดล่อนง่าย

ทาลิปสติก แบบไหนให้ติดทน เนื้อลิปแบบไหนก็ไม่หลุดล่อนง่าย

7 เคล็ดลับทาลิปสติกให้ติดทนนาน ไม่เลอะเทอะ

ทาลิปสติก แบบไหนให้ติดทน เนื้อลิปแบบไหนก็ไม่หลุดล่อนง่าย เคยไหมที่เมื่อคุณสวมหน้ากากอนามัย และต้องการใช้ลิปสติกเพื่อเสริมความงาม แต่กลับพบว่าลิปสติกหลุดร่วงไปพร้อมกับการสวมหน้ากากอนามัย? วันนี้เรามีคำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณได้รู้จักขั้นตอนการทาลิปสติกให้ติดทนนาน ไม่ว่าจะเป็นลิปสติกแบบใด แต่ก็ยังคงรักษาการติดทนและป้องกันการหลุดร่วงอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณได้รับลิปสติกที่สวยงามและติดทนนานอย่างที่คุณต้องการ

ขั้นตอนการทาลิปสติกให้ติดทนนานทั้งหมดมีทั้งหมด 7 ขั้นตอนดังนี้:

1.การสครับปากก่อนทาลิป

การสครับเปลือกปาก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและที่ตายออกไป นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับปาก ทำให้ไม่มีการลอกและเป็นขุย ทั้งยังช่วยเปิดเผยความเรียบเนียนของริมฝีปากอีกด้วย การลอกเปลือกปากเป็นขั้นตอนเตรียมริมฝีปากที่สำคัญก่อนการทาลิปสติก โดยที่เราสามารถเตรียมริมฝีปากให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้าได้อย่างมืออาชีพ

2.ทาลิปบาล์ม

เมื่อเตรียมริมฝีปากเรียบร้อยแล้ว ควรดำเนินการต่อด้วยการบำรุงริมฝีปากด้วยลิปบาล์ม เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้ริมฝีปากของคุณมีความชุ่มชื้นและนุ่มนวลอย่างสมบูรณ์ สำหรับสาวๆ ควรให้ความสำคัญเสมอและควรเลือกใช้ลิปบาล์มที่ไม่มีความมันมากเกินไป เพราะจะทำให้ลิปสติกติดไม่ดี หากมีการใช้ลิปบาล์มที่มีความมันหรือทำให้ปากเลื่อนไปมากเกินไป ควรเช็ดคราบมันออกจากลิปบาล์มก่อนที่จะดำเนินขั้นตอนต่อไป

3.ทารองพื้น

หลังจากการทาลิปบาล์มเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณสามารถทาคอนซีลเลอร์สำหรับปากหรือรองพื้นได้ตามต้องการ เพียงแต่จำไว้ว่าห้ามทารองพื้นหนาเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ลิปสติกไม่ติดทนหรือมีความหนาเกินไปได้ การทารองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ช่วยให้สีของลิปสติกดูชัดเจนและมีความสมจริงมากขึ้น เป็นวิธีที่สาวๆ ที่ชอบใช้สีลิปสติกที่เข้มสมบูรณ์และทึบทันสามารถใช้ได้ในทุกๆ ครั้ง

4.เขียนขอบปาก

ต่อไปเริ่มเขียนขอบปากเพื่อกำหนดรูปร่างของปากให้ตรงตามแบบที่คุณต้องการ นอกจากนี้การเขียนขอบปากยังช่วยให้ปากมีลักษณะคมชัดเจน ทำให้การทาลิปสติกดูสวยมากขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ลิปสติกสีเข้มที่ต้องการให้คมชัดเจนในการแต่งหน้า

5.ทาลิปสติก

เมื่อเขียนขอบปากหรือกำหนดขอบปากเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถทาลิปสติกได้เลยตามต้องการ วิธีการทาลิปสติกสามารถทำได้โดยใช้แท่งลิปสติกหรือดับแบรนด์ลิปสติกที่หลังมือแล้วใช้พู่กันทาก็ได้เช่นเดียวกัน การใช้พู่กันทาลิปสติกบนริมฝีปากจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสีและทิศทางของลิปสติกได้ดีขึ้น แต่สำหรับผู้หญิงที่ใช้พู่กันในการทาลิปสติก แนะนำให้ทาลิปสติกจากแท่งอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเบลนสีให้เข้ากันและช่วยให้สีดูสดใสมากขึ้นอีกด้วย

6.ปัดด้วยแป้งฝุ่น

หลังจากทาลิปสติกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้ใช้ทิชชู่ทาบบริเวณปากและปัดแป้งฝุ่นลงบริเวณริมฝีปากโดยห้ามปัดที่ริมฝีปากโดยตรง เนื่องจากอาจทำให้สีลิปสติกเปลี่ยนได้ วิธีนี้ช่วยเซ็ตลิปสติกให้อยู่คงเดิมและทำให้สีลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้นอีกด้วย การใช้ทิชชู่ทาบและปัดแป้งฝุ่นในบริเวณริมฝีปากจึงเป็นเคล็ดลับสำคัญในการทำให้ลิปสติกติดทนนานและสวยงามยิ่งขึ้น

7.ทาลิปสติกอีกรอบ

เมื่อสาวๆ เสร็จสิ้นการเซ็ตลิปสติกด้วยการปัดด้วยแป้งฝุ่นแล้ว ควรจบด้วยการทาลิปสติกอีกรอบ เพื่อให้สีติดทนนานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใส่หน้ากาก ออกกำลังกาย หรือว่ายน้ำ ก็ไม่ทำให้ลิปสติกหลุดออกง่ายอีกต่อไป

สำหรับสาวๆ อย่าลืมนำขั้นตอนทั้ง 7 นี้ไปใช้ในการทาลิปสติกในแต่ละวันเพื่อไม่ให้ลิปสติกหลุดออกง่าย ท่านอาจจะเพิ่มเติมการป้องกันลิปสติกไม่หลุดออกอย่างเต็มที่โดยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีสูตรที่ติดทนนาน เพื่อความแน่นอนในทุกๆ สถานการณ์และกิจกรรมที่ท่านทำในแต่ละวัน วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้ริมฝีปากของท่านไม่ซีดแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเงินสำหรับการซื้อลิปสติกใหม่อีกด้วย ดังนั้นไม่ควรละเลยขั้นตอนนี้ในการแต่งหน้าประจำวันของคุณ