แอปวิ่ง แอปไหนดี ปี 2024 ใช้งานง่าย ช่วยดูสุขภาพสำหรับสายวิ่ง

แอปวิ่ง แอปไหนดี ปี 2024 ใช้งานง่าย ช่วยดูสุขภาพสำหรับสายวิ่ง

“อยากเริ่มวิ่งแต่ไม่รู้จะใช้แอปอะไรดี? มาดูรีวิวแอปวิ่งยอดนิยมปี 2024 ที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร ช่วยให้ติดตามสุขภาพและพัฒนาการวิ่งของคุณ”

แอปวิ่ง แอปไหนดี ปี 2024 ใช้งานง่าย ช่วยดูสุขภาพสำหรับสายวิ่ง

เทรนด์รักสุขภาพ: ออกกำลังกายง่าย ๆ ได้ทุกที่โดยไม่ต้องเข้าฟิตเนส

เทรนด์รักสุขภาพ กำลังมาแรง ผู้คนเริ่มหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ทั้งวิ่ง เล่นโยคะ เข้าฟิตเนส หรือชกมวย แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งเหยิงและเร่งรีบ การไปฟิตเนสหรือเข้าคลาสออกกำลังกายอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่สะดวกสำหรับทุกคน

บทความนี้ จึงขอเสนอแนวทาง “การออกกำลังกายง่าย ๆ ได้ทุกที่โดยไม่ต้องเข้าฟิตเนส” เพื่อช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางหรือเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าฟิตเนส

1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ:

  • วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเดินเร็วในสวนสาธารณะ
  • กระโดดเชือก
  • เต้นแอโรบิคตามวิดีโอ
  • ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำสาธารณะ

2. ฝึกความแข็งแรง:

  • วิดพื้น
  • ซิทอัพ
  • สควอท
  • ลันจ์
  • ยกดัมเบลล์ (สามารถใช้น้ำดื่มแทนดัมเบลล์ได้)

3. ฝึกโยคะ:

  • หาโยคะท่าง่าย ๆ ฝึกตามวิดีโอ
  • เข้าคลาสโยคะออนไลน์

4. เล่นกีฬา:

  • เตะฟุตบอล
  • ตีแบดมินตัน
  • เล่นบาสเก็ตบอล
  • ปั่นจักรยาน

5. เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์

6. ทำงานบ้าน: การทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ล้วนเป็นการเผาผลาญพลังงาน

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายที่ชัดเจน
  • หาเพื่อนร่วมออกกำลังกายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
  • ฟังเพลงสนุก ๆ ขณะออกกำลังกาย
  • จดบันทึกผลการออกกำลังกายเพื่อติดตามความคืบหน้า
  • เลือกกิจกรรมที่คุณชอบและสนุกกับมัน

การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อสุขภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส

ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย

สุขภาพที่ดี อยู่แค่เอื้อมมือ เพียงเริ่มต้นออกกำลังกายง่าย ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา

 

ฟีเจอร์เด่นของแอปวิ่งยอดนิยมปี 2024

1. Nike Run Club:

  • โปรแกรมการฝึกซ้อมสำหรับนักวิ่งทุกระดับ
  • โค้ชเสมือนจริงให้คำแนะนำ
  • เพลงประกอบการวิ่งจากศิลปินดัง
  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Music และ Spotify

2. Adidas Running:

  • โปรแกรมการฝึกซ้อมเฉพาะบุคคล
  • แผนที่วิ่ง 3D
  • ชุมชนนักวิ่ง Adidas
  • รางวัลสำหรับนักวิ่ง

3. Strava:

  • แผนที่วิ่งแบบ heatmap แสดงเส้นทางยอดนิยม
  • ฟีเจอร์ Beacon แชร์ตำแหน่งกับเพื่อน
  • การวิ่งแบบกลุ่ม (Group Runs)
  • ฟีเจอร์ Safety Beacon แจ้งเตือนเพื่อนหรือครอบครัวเมื่อวิ่งในสถานที่เปลี่ยว

4. Runkeeper:

  • โปรแกรมการฝึกซ้อมแบบ Couch to 5K
  • แผนที่วิ่งแบบ audio cues
  • ฟีเจอร์ Race Day Predictor คาดการณ์เวลาในการวิ่ง
  • รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ MyFitnessPal

5. Pumatrac:

  • โปรแกรมการฝึกซ้อมสำหรับนักวิ่งทุกระดับ
  • โค้ชเสมือนจริงจากนักกีฬา Puma
  • เกมวิ่งเพื่อเพิ่มแรงจูงใจ
  • รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Google Fit

หมายเหตุ:

  • ฟีเจอร์บางตัวอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละแอปก่อนใช้งาน

เปรียบเทียบฟีเจอร์และราคาแอปวิ่งยอดนิยมปี 2024

แอป ฟีเจอร์เด่น ราคา
Nike Run Club โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เพลงประกอบ รองรับ Apple Music & Spotify ฟรี
Adidas Running โปรแกรมการฝึกซ้อม แผนที่ 3D ชุมชนนักวิ่ง รางวัล ฟรี
Strava แผนที่ heatmap ฟีเจอร์ Beacon การวิ่งแบบกลุ่ม Safety Beacon ฟรี (มีเวอร์ชันเสียเงิน)
Runkeeper โปรแกรม Couch to 5K แผนที่ audio cues Race Day Predictor รองรับ MyFitnessPal ฟรี (มีเวอร์ชันเสียเงิน)
Pumatrac โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เกมวิ่ง รองรับ Google Fit ฟรี (มีเวอร์ชันเสียเงิน)

หมายเหตุ:

  • ฟีเจอร์บางตัวอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละแอปก่อนใช้งาน

สรุป:

  • Nike Run Club: เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการโปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง และเพลงประกอบการวิ่ง
  • Adidas Running: เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการแผนที่วิ่ง 3D ชุมชนนักวิ่ง และรางวัล
  • Strava: เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการแผนที่ heatmap ฟีเจอร์ Beacon การวิ่งแบบกลุ่ม และ Safety Beacon
  • Runkeeper: เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่ต้องการโปรแกรม Couch to 5K และแผนที่ audio cues
  • Pumatrac: เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการโปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง และเกมวิ่ง

แอปวิ่งไหนเหมาะกับใคร?

แอปวิ่ง มีให้เลือกมากมาย แต่ละแอปมีฟีเจอร์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

เพื่อช่วยให้คุณเลือกแอปที่เหมาะกับตัวเอง

ลองตอบคำถามเหล่านี้

  • คุณเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือมือโปร?
  • คุณต้องการฟีเจอร์อะไรบ้าง?
  • คุณต้องการโปรแกรมการฝึกซ้อมหรือไม่?
  • คุณต้องการฟังเพลงหรือเสียงบรรยายระหว่างวิ่งหรือไม่?
  • คุณต้องการแชร์ผลการวิ่งกับเพื่อนหรือไม่?
  • คุณต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่?

เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้แล้ว

ลองดูแอปที่เหมาะกับคุณ

1. Nike Run Club:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เพลงประกอบ รองรับ Apple Music & Spotify

2. Adidas Running:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม แผนที่ 3D ชุมชนนักวิ่ง รางวัล

3. Strava:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งที่จริงจัง
  • ฟีเจอร์เด่น: แผนที่ heatmap ฟีเจอร์ Beacon การวิ่งแบบกลุ่ม Safety Beacon

4. Runkeeper:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งมือใหม่
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรม Couch to 5K แผนที่ audio cues Race Day Predictor รองรับ MyFitnessPal

5. Pumatrac:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เกมวิ่ง รองรับ Google Fit

วิธีใช้งานแอปวิ่ง

แอปวิ่ง มีให้เลือกมากมาย แต่ละแอปมีวิธีใช้งานคล้าย ๆ กัน

โดยทั่วไปแล้ว

  1. ดาวน์โหลดแอป ที่คุณต้องการจาก App Store หรือ Google Play Store
  2. สร้างบัญชีผู้ใช้
  3. ใส่ข้อมูลส่วนตัว เช่น เพศ อายุ น้ำหนัก
  4. ตั้งค่าเป้าหมาย การวิ่งของคุณ
  5. เปิด GPS บนโทรศัพท์ของคุณ
  6. กดปุ่มเริ่ม เพื่อเริ่มวิ่ง
  7. แอปจะติดตาม ระยะทาง ความเร็ว แคลอรี่ที่เผาผลาญ และข้อมูลอื่น ๆ
  8. คุณสามารถหยุดพัก หรือหยุดการวิ่งได้ทุกเมื่อ
  9. เมื่อคุณวิ่งเสร็จ แอปจะบันทึกข้อมูลการวิ่งของคุณ
  10. คุณสามารถดูข้อมูล การวิ่งของคุณย้อนหลังได้

เคล็ดลับการวิ่งให้ได้ผล

การวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

เพื่อให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพ

ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

1. เริ่มต้นอย่างช้าๆ

  • หากคุณเป็นมือใหม่ เริ่มต้นด้วยการเดินเร็วหรือวิ่งสลับเดิน
  • ค่อยๆ เพิ่มระยะทางและเวลา การวิ่งของคุณทีละน้อย

2. วอร์มอัพก่อนวิ่ง

  • ใช้เวลา 5-10 นาที ยืดกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่ง
  • การวอร์มอัพ จะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ

3. วิ่งด้วยท่าทางที่ถูกต้อง

  • มองตรงไปข้างหน้า
  • ลำตัวตรง
  • ไหล่ผ่อนคลาย
  • แขนแกว่งสบายๆ
  • ฝ่าเท้าลงพื้นเต็มเท้า

4. หายใจให้ถูกต้อง

  • หายใจเข้าลึกๆ
  • หายใจออกยาวๆ
  • หายใจด้วยจมูก
  • หายใจด้วยปาก

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • ดื่มน้ำก่อนวิ่ง
  • ดื่มน้ำระหว่างวิ่ง
  • ดื่มน้ำหลังวิ่ง

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

  • นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นฟู

7. หาเพื่อนร่วมวิ่ง

  • การวิ่งกับเพื่อน จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
  • ทำให้การวิ่งสนุกยิ่งขึ้น

8. ตั้งเป้าหมาย

  • ตั้งเป้าหมาย ที่ท้าทายแต่ achievable
  • ติดตามผล การวิ่งของคุณ

9. ฟังเพลง

  • ฟังเพลง หรือเสียงบรรยายระหว่างวิ่ง
  • ช่วยให้เพลิดเพลิน
  • เพิ่ม motivation

10. สนุกกับการวิ่ง

  • สิ่งสำคัญที่สุด คือ สนุกกับการวิ่ง
  • อย่ากดดันตัวเอง
  • วิ่งอย่างสบายๆ

วิธีการเลือกแอปวิ่ง

แอปวิ่ง มีให้เลือกมากมาย แต่ละแอปมีฟีเจอร์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

เพื่อช่วยให้คุณเลือกแอปที่เหมาะกับตัวเอง

ลองตอบคำถามเหล่านี้

  • คุณเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือมือโปร?
  • คุณต้องการฟีเจอร์อะไรบ้าง?
  • คุณต้องการโปรแกรมการฝึกซ้อมหรือไม่?
  • คุณต้องการฟังเพลงหรือเสียงบรรยายระหว่างวิ่งหรือไม่?
  • คุณต้องการแชร์ผลการวิ่งกับเพื่อนหรือไม่?
  • คุณต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่?

เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้แล้ว

ลองดูแอปที่เหมาะกับคุณ

1. Nike Run Club:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เพลงประกอบ รองรับ Apple Music & Spotify

2. Adidas Running:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม แผนที่ 3D ชุมชนนักวิ่ง รางวัล

3. Strava:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งที่จริงจัง
  • ฟีเจอร์เด่น: แผนที่ heatmap ฟีเจอร์ Beacon การวิ่งแบบกลุ่ม Safety Beacon

4. Runkeeper:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งมือใหม่
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรม Couch to 5K แผนที่ audio cues Race Day Predictor รองรับ MyFitnessPal

5. Pumatrac:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม โค้ชเสมือนจริง เกมวิ่ง รองรับ Google Fit

6. FitOn:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม video classes ฟังเพลง รองรับ Apple Watch

7. Zwift:

  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งทุกระดับ
  • ฟีเจอร์เด่น: โปรแกรมการฝึกซ้อม เกมวิ่ง รองรับลู่วิ่งไฟฟ้า

แอปวิ่งที่มีระบบรองรับและการ Sync ข้อมูลกับหลากหลายอุปกรณ์

แอปวิ่ง หลายตัวมีระบบรองรับและการ Sync ข้อมูลกับหลากหลายอุปกรณ์

แอปที่ได้รับความนิยม

ได้แก่

  • Nike Run Club: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
  • Adidas Running: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
  • Strava: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
  • Runkeeper: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
  • Pumatrac: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
  • FitOn: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
  • Zwift: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom

นอกจากนี้ ยังมีแอปวิ่งอื่นๆ อีกมากมาย

ที่รองรับการ Sync ข้อมูลกับอุปกรณ์

เช่น

  • MapMyRun: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
  • Runtastic: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
  • RunGo: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
  • MyFitnessPal: รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom

ก่อนเลือกแอปวิ่ง

ควรตรวจสอบ

  • ระบบรองรับ
  • การ Sync ข้อมูล
  • ฟีเจอร์
  • ราคา

ของแอป

เพื่อเลือกแอปที่เหมาะกับ

  • ความต้องการ
  • อุปกรณ์
  • งบประมาณ

ของ

ผู้ใช้งาน

ข้อควร

ระวัง

  • การ Sync ข้อมูล
  • อาจไม่สมบูรณ์
  • หรือมีข้อผิดพลาด

ควร

  • ตรวจสอบข้อมูล
  • อย่างสม่ำเสมอ

และ

  • สำรองข้อมูล

10 อันดับ แอปวิ่ง แอปไหนดี ใช้งานง่าย ช่วยดูสุขภาพสำหรับสายวิ่ง

แอปวิ่ง มีให้เลือกมากมาย แต่ละแอปมีฟีเจอร์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

10 อันดับ แอปวิ่ง

ที่ใช้งานง่าย

ช่วยดูสุขภาพ

สำหรับสายวิ่ง

มีดังนี้

    1. Nike Run Club:
  • แอปยอดนิยม
  • ฟีเจอร์ครบครัน
  • ใช้งานง่าย
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
    1. Adidas Running:
  • โปรแกรมการฝึกซ้อม
  • แผนที่ 3D
  • ชุมชนนักวิ่ง
  • รางวัล
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
    1. Strava:
  • แผนที่ heatmap
  • ฟีเจอร์ Beacon
  • การวิ่งแบบกลุ่ม
  • Safety Beacon
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
    1. Runkeeper:
  • โปรแกรม Couch to 5K
  • แผนที่ audio cues
  • Race Day Predictor
  • รองรับ MyFitnessPal
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
    1. Pumatrac:
  • โปรแกรมการฝึกซ้อม
  • โค้ชเสมือนจริง
  • เกมวิ่ง
  • รองรับ Google Fit
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit และ Polar
    1. FitOn:
  • โปรแกรมการฝึกซ้อม
  • video classes
  • ฟังเพลง
  • รองรับ Apple Watch
  • รองรับ Garmin, Fitbit และ Polar
    1. Zwift:
  • โปรแกรมการฝึกซ้อม
  • เกมวิ่ง
  • รองรับลู่วิ่งไฟฟ้า
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
    1. MapMyRun:
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
    1. Runtastic:
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom
    1. RunGo:
  • รองรับ Apple Watch, Android Wear, Garmin, Fitbit, Polar, Suunto, Wahoo และ TomTom

การเลือกแอปวิ่งที่เหมาะกับ

  • ความต้องการ
  • อุปกรณ์
  • งบประมาณ