อายไพร์เมอร์ ไอเท็มเด็ด แต่งตาสวย ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น

อายไพร์เมอร์ ไอเท็มเด็ด แต่งตาสวย ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น

อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แบบไหนทาแล้วไม่ตกร่องสวยเป๊ะ

อายไพร์เมอร์ (Eye Primer)แบบไหนทาแล้วเหมาะกับอากาศร้อนในประเทศไทย ที่ก่อให้เกิดปัญหาในการแต่งหน้า เป็นพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาการเป็นเหงื่อและการทำให้อายแชโดว์หรืออายไลเนอร์หลุดหายไปใต้ตาในช่วงเวลากลางวัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีผิวหน้ามันและผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย หลายคนจึงหันมาใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยป้องกันการละลายของเมคอัพ

การเลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer)ให้เหมาะสมกับปัญหาของผิวหน้าและการใช้งานมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเป็นเหงื่อหรือการปรับสภาพผิวของรอบดวงตาที่แห้ง หรือมัน หรือการปรับความเข้มของสีของอายแชโดว์ โดยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางจะช่วยให้การใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับแต่งหน้าในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของไทย

วิธีการเลือก อายไพร์เมอร์ (Eye Primer)

อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ปัจจุบันมีหลากหลายประเภทและลักษณะเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสร้างลุคที่หลากหลายได้อย่างงดงาม เรียกว่ามีความสุขในการใช้มัน เพราะมีหลากหลายสีสันและส่วนผสมที่น่าตื่นเต้น สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือก อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แบบไหน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง สามารถติดตามแนวทางต่อไปนี้ได้

1.เลือกประเภท อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ให้เหมาะกับปัญหาเปลือกตาเป็นอันดับแรก

เมื่อเลือก อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่เหมาะสม การแต่งตาจะดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะผิวเป็นอย่างดี และสีของอายแชโดว์จะชัดเจนและติดทนนาน โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทตามเนื้อสัมผัสได้ดังนี้

  • เนื้อลิควิด มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เนื้อสัมผัสบางเบาและเกลี่ยง่าย มีพิกเม้นต์สีแน่นชัด และเซ็ตตัวได้เร็ว โดยมีคุณสมบัติที่แห้งไวที่สุด เนื่องจากมีเบสเป็นน้ำ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน มักจะมีให้ในรูปแบบแท่งจิ้มจุ่มหรือหลอดบีบ ทำให้สะดวกต่อการพกพาและใช้งาน อย่างไรก็ตาม ควรใช้เนื้อลิควิดทีละน้อยเพื่อป้องกันการเกิดรอยพับที่เปลือกตา
  • เนื้อครีม มีพิกเม้นต์สีแน่นชัดมากกว่าเนื้อลิควิด แต่อาจเซ็ตตัวช้ากว่าเนื่องจากมีเบสเป็นน้ำมัน ดังนั้นเหมาะสำหรับคนที่เปลือกตาค่อนข้างแห้งหรือมีปัญหาผิวบนเปลือกตา รวมถึงคนที่ต้องการแต่งตาเข้มในลุคสโมคกี้อาย มักมีให้ในรูปแบบตลับหรือแท่ง สามารถเกลี่ยง่ายด้วยนิ้วหรือแปรงได้ แต่ควรทาทีละน้อยเพื่อป้องกันการเกิดคราบได้ง่าย
  • เนื้อฝุ่น ผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่นมีลักษณะเนื้อสัมผัสและพิกเม้นต์สีที่เบาบาง มีความช้าเซ็ตตัวเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น ๆ ซึ่งสร้างลุคที่ธรรมชาติและเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีลุคแต่งตาที่ธรรมชาติ นอกจากนี้ เนื้อฝุ่นยังมีสีที่ไม่แน่นอนเหมือนกับสินค้าอื่น ๆ ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวรอบดวงตาหรือต้องการสีของอายแชโดว์ที่ชัดเจนมากขึ้น ส่วนใหญ่มักจะมีในรูปแบบตลับหรือมาพร้อมกับอายแชโดว์ และมักนิยมใช้ร่วมกับแปรงเพื่อให้การเบลนด์สีได้อย่างดีที่สุด

2.สำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เนื้อฝุ่นแบบไม่มีสีจะใช้งานง่ายที่สุด

สำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นการแต่งหน้า ควรเลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แบบฝุ่นเป็นอันดับแรก เนื่องจากมันง่ายต่อการใช้งานและเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยชำนาญ มักจะมาพร้อมกับตลับอายแชโดว์ให้ด้วย โดยเนื้อฝุ่นจะบางเบา และเกลี่ยง่าย ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ เมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อลิควิดหรือครีม อาจจะไม่ช่วยให้สีอายแชโดว์ชัดเจนหรือติดทนเท่ากัน แต่ก็เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลองหัดแต่งตาได้ บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมของชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ด้วย

นอกจากนี้ มือใหม่ควรเลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แบบที่ไม่มีสีหรือ Colorless Eye Primer ซึ่งมักจะมีเฉพาะฝุ่นสีเนื้อหรือสีออกครีม ๆ แต่ไม่มีสีสันจริง ๆ ซึ่งเป็นการลงทาเพื่อปรับสีผิวเบา ๆ ทำให้ได้ลุคธรรมชาติ สามารถใช้ทาแล้วแต่งหน้าต่อได้โดยไม่ทำให้สีอายแชโดว์เปลี่ยนแปลงไป

3.สำหรับการแต่งหน้าออกงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้เลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่เป็นสูตรคุมมัน

เมื่อต้องการแต่งหน้าเพื่อเข้างาน งานพิเศษ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง และต้องการให้เมคอัพที่แต่งหน้าติดทนตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะหรือเลอะ ควรพิจารณาใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่มีสูตรควบคุมความมันและความติดทนสูง ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทั้งสูตร อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แบบเนื้อลิควิดหรือครีม

ส่วนใหญ่ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่มีสูตรควบคุมความมันจะมีการระบุว่าเป็น Longwear หรือ Long-lasting ซึ่งมักจะมีความติดทนนานกว่าสูตรทั่วไป โดยบางรุ่นยังระบุระยะเวลาเพิ่มเติม เช่น 24 ชั่วโมง หรือ 16 ชั่วโมง เป็นต้น นอกจากนี้ สามารถเลือกใช้สูตร Oil Free หรือ Oil Control ซึ่งจะช่วยควบคุมความมันบนเปลือกตา และลดการเลอะเทอะเมคอัพจากความมันบนผิวได้ดีเช่นเดียวกัน

ในสถานการณ์ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยต้องเผชิญกับอากาศร้อน แนะนำให้เลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่มีสูตร Water-Proof หรือ Smudge-Proof ซึ่งเป็นสูตรที่กันน้ำ กันเหงื่อ และกันหนังตามันได้ดี นอกจากนี้ การเลือกใช้ Eye Primer ที่มีส่วนผสมของซิลิโคนที่ช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ หรือซิงค์ที่ควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวหนัง ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ยึดเกาะของผิวดียิ่งขึ้นอีกด้วย

สภาพผิวกับการเลือก อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่เหมาะสม

ผิวมัน และ ผิวธรรมดา : สำหรับผิวที่มีความมันหรือผิวธรรมดา การเลือก อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เป็นสิ่งสำคัญ เนื้อซิลิโคนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมันทาง่ายและติดทนนาน อย่างไรก็ตาม สำหรับ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน อาจจะทำให้ผิวแห้งได้เร็วมาก ดังนั้นเมื่อทา อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) แล้วควรทาอายแชโดว์ทันทีเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนให้กับเม็ดสีอย่างเหมาะสม

ผิวแห้ง : สำหรับผิวที่มีความแห้ง การเลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เป็นเรื่องสำคัญ เนื้อซิลิโคนอาจจะไม่เหมาะกับผิวแห้ง เพราะฉะนั้นสาวๆ ผิวแห้งควรเลือกใช้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เนื้อครีม เนื่องจากมันจะช่วยให้ผิวไม่แห้งได้ทันที ทำให้มีเวลาทาอายแชโดว์มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเกลี่ยให้ อายไพร์เมอร์ (Eye Primer) เกาะผิวได้ดีและมีความสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับคุณภาพของการเกาะผิวที่ดี แน่นอนว่าเนื้อครีมแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับผิวที่มัน