น้ำผึ้งมานูก้า เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง

น้ำผึ้งมานูก้า เคล็ดลับความงามจากธรรมชาติ

น้ำผึ้งมานูก้า คืออะไร

        น้ำผึ้งมานูก้าเป็นน้ำผึ้งที่ผลิตจากเกสรดอกไม้ของต้นมานูก้า ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศนิวซีแลนด์ น้ำผึ้งมานูก้ามีความพิเศษเฉพาะตัวคือ มีรสชาติหอมหวานกว่าน้ำผึ้งทั่วไป และมีสีเข้มกว่าเนื่องจากมีสารประกอบฟีนอลิกสูง น้ำผึ้งมานูก้ายังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยรักษาแผล บำรุงผิวพรรณ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ประโยชน์ของน้ำผึ้งมานูก้าต่อสุขภาพ

        น้ำผึ้งมานูก้ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยในน้ำผึ้งมานูก้า 1 ช้อนชา มีพลังงาน 33 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 8.4 กรัม และมีน้ำตาล 8.2 กรัม มากกว่าน้ำผึ้งทั่วไปถึง 4 เท่า

น้ำผึ้งมานูก้ามีสารอาหารมากมาย เช่น วิตามิน โปรตีน และเกลือแร่ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น

  • น้ำผึ้งมานูก้า ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ช่วยฆ่าเชื้อและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อไวรัส
  • น้ำผึ้งมานูก้า บำรุงผิวพรรณ ช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพ เพิ่มความชุ่มชื้น และรักษาสิว ยังสามารถนำมามาส์กผิวเพิ่มความชุ่มชื้น ได้ดี
  • น้ำผึ้งมานูก้า ยังสามารถ ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสษได้ทั้งภายใน และ ภายนอกร่างกาย น้ำฝึ้งมานูก้า ยังสามารถ ทาบนบาดแผลไฟใหม่หรือพุพอง ช่วยสมานแผล ลดการติดเชื้อ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื้อใหม่ บรรเทาอาการเจ็บปวดได้อีกด้วย
  • น้ำผึ้งมานูก้า ยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ป้องกันแผลในกระเพาะอาหารได้ดี
  • น้ำผึ้งมานูก้า นำมาทานก่อนนอนเพื่อช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสาร Tryptophan ในน้ำผึ้งจะไปช่วยกระตุ้นเซโรโทนินในร่างกาย ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย

        นอกจากนี้ น้ำผึ้งมานูก้ายังมีเอนไซม์ที่สามารถผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยาฆ่าเชื้อโรค จึงมีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรคและบรรเทาอาการอักเสบ

การเลือกน้ำผึ้งมานูก้า ต้องเลือกจากอะไร มาดูกัน

1.เลือกน้ำผึ้งมานูก้า ให้เลือกตามระดับค่า UMF

        ค่า UMF เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของน้ำผึ้งมานูก้า ค่า UMF (Unique Manuka Factor) คือ ระดับที่แสดงถึงศักยภาพในการออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียของน้ำผึ้งมานูก้าตามธรรมชาติ ค่า UMF สูงขึ้นเท่าไร แสดงว่าน้ำผึ้งมานูก้ามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียมากขึ้นเท่านั้น โดยทั้วไป ระดับค่า UMF จะอยู่ที่ ระดับ 10-25 โดยระดับ UMF 10+ ขึ้นไป ถือว่าเป็นระดับ ค่าทีออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวสัสได้ดี

2.เลือกน้ำผึ้งมานูก้า ตามระดับค่า MGO

        ค่า MGO (Methylglyoxal) คือ ระดับที่แสดงถึงปริมาณสาร Methylglyoxal ในน้ำผึ้งมานูก้า โดยสาร Methylglyoxal เป็นสารประกอบธรรมชาติที่มีอยู่ในน้ำผึ้งมานูก้า และมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ควรเลือกค่า MGO 263+ ขึ้นไป ซึ่งค่า MGO ในระดับนี้ ถือว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสในระดับสูง สามารถใช้รักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคไข้หวัด โรคติดเชื้อในช่องปาก โรคผิวหนังอักเสบ โรคแผลอักเสบ เป็นต้น

3.เลือกน้ำผึ้งมานูก้า ตามระดับค่า Bio Active

        ค่า Bio Active คือ ระดับที่แสดงถึงระดับของการต้านแบคทีเรีย ซึ่งจะแตกต่างจากค่า UMF และค่า MGO ตรงที่ค่า Bio Active สามารถมีสาร HPA และ NPA หรือไม่ก็ได้ ทั้งยังเป็นค่าที่แสดงถึงสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรีย ได้แก่ ระดับการต้านอนุมูลอิสระ, จำนวนเกสร และการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ค่า Bio Active ของน้ำผึ้งมานูก้า จะขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป โดยระดับค่า Bio Active โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 70+ ขึ้นไป ซึ่งจะเทียบเท่ากับ UMF 10+ ขึ้นไป