เลือกชีสเชดด้า (Cheddar Cheese)แบบไหนให้อร่อย
ชีสเชดด้า เป็นวัตถุดิบที่ทำให้เมนูอาหารมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ โดยมีความหอมมันและรสเค็มที่เป็นเอกลักษณ์ของชีสที่ผ่านกระบวนการ Cheddaring ที่ทำให้เชสด้าชีสมีลักษณะกึ่งแข็งและละลายเยิ้มเมื่อโดนความร้อน นอกจากชีสที่เราคุ้นเคย เชดด้าชีสมีทั้งแบบออริจินอลและแบบที่แบรนด์ต่าง ๆ ปรับปรุงสูตรเพื่อนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เมื่อคุณเลือกเชดด้าชีสควรพิจารณากลิ่นหอมและรสชาติที่เฉพาะตัวของแต่ละยี่ห้อ นอกจากนี้ยังสามารถทดลองเลือกชีสที่มีการเพิ่มส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น ชีสที่มีหน้าที่ได้จากนมผสมหรือชีสที่มีรสชาติพิเศษ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การรับประทานของคุณอีกมากมาย
วิธีการเลือกเชดด้าชีส
คุณสามารถเลือกเชดด้าชีสที่อร่อยได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นในร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, หรือร้านต่าง ๆ ที่คุณชอบ. ที่นี้มีหลายยี่ห้อ, หลายรสชาติ, หลายราคาให้คุณได้เลือกสรร เมื่อคุณต้องการความพิเศษในการรับประทาน คุณสามารถพิจารณากลิ่นหอมและรสชาติที่ทำให้แตกต่างจากชีสทั่วไป แต่ละยี่ห้อมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้คุณหลงใหล นอกจากนี้ คุณยังสามารถลองเลือกชีสที่มีส่วนผสมเพิ่มเติม เพื่อให้ประสบการณ์รับประทานของคุณเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
1.เชดด้าชีส 4 ระดับความเข้มข้น เลือกให้เหมาะกับเมนู
ความเข้มข้นของเชดด้าชีสเป็นความลับที่ซ่อนอยู่ในแต่ละบางก้อน. นอกจากความหอมหวานและความเค็มที่เราคุ้นเคย ความเข้มข้นนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่ช่วยกำหนดรสชาติและการสัมผัสของเชดด้าชีส ระดับความเข้มข้นของเชดด้าชีสนั้นสัมพันธ์กับระยะเวลาในการหมักหรืออายุของชีสเอง. มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เชดด้าชีสแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ. ระดับของเชดด้าชีส แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ Mild, Medium, Sharp, และ Extra Sharp.
- Mild : ความนุ่มนวลที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เชดด้าชีสเป็นที่นิยมในผู้ที่ต้องการรสชาติอ่อนๆ อายุการหมักประมาณ 3-6 เดือน เนื้อสัมผัสนุ่ม รสชาติอ่อนๆ เหมาะกับเมนูอาหารที่ต้องการความหอมมัน เช่น พิซซ่า พาสต้า สลัด
- Medium : อายุการหมักประมาณ 6-9 เดือน เนื้อสัมผัสปานกลาง รสชาติเข้มข้นขึ้น เหมาะกับเมนูอาหารที่ต้องการรสชาติกลมกล่อม เช่น ชีสเค้ก ลาซานญ่า
- Sharp : อายุการหมักประมาณ 9-12 เดือน เนื้อสัมผัสแน่น รสชาติเข้มข้น เหมาะกับเมนูอาหารที่ต้องการรสชาติหนักแน่น เช่น ชีสเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์
- Extra Sharp : อายุการหมักมากกว่า 12 เดือน เนื้อสัมผัสแน่น รสชาติเข้มข้นมาก เหมาะกับเมนูอาหารที่ต้องการรสชาติจัดจ้าน เช่น ชีสแท่ง ชีสบอล
ความชื้นในเชคด้าชีสจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น ต้องการรับประทานชีสเยิ้ม ๆ ควรเลือกเชดด้าชีสระดับ Mild, Medium หรือ Sharp ส่วนหากต้องการรับประทานชีสที่มีรสชาติเข้มข้น ควรเลือกเชดด้าชีสระดับ Sharp หรือ Extra Sharp Cheddar
2.เลือกเชดด้าชีสจากส่วนประกอบ
ส่วนประกอบที่ทำให้เชดด้าชีสมีรสชาติ นอกจาก นม, เกลือ, สตาร์ทเตอร์, และเรนเนท ที่เป็นส่วนหลัก บางยี่ห้อยังเติม Annatto เข้าไปเพื่อเพิ่มสีสัน. ส่วนประกอบนี้มีอัตราส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลและสารอาหารในการเลือกซื้อ และไม่เพียงเท่านั้น ยี่ห้อบางยีห้อยังเพิ่มความพิเศษ เช่นการใช้เอนไซม์ที่สกัดจากพืชในกระบวนการผลิต ควรเลือกเชดด้าชีสที่มีปริมาณโซเดียมและไขมันต่ำ แต่รสชาติยังคงมีความอร่อยและโปรตีนสูง
3.เลือกเชดด้าชีสจากสี
เชดด้าชีสที่มีสีสันแตกต่างกันนั้น เกิดจากการเติมสารสีธรรมชาติหรือสีผสมอาหารสังเคราะห์ มีผลต่อสีสันเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อรสชาติแต่อย่างใด โดยธรรมชาติแล้วเชดด้าชีสจะมีสีเหลืองครีมอ่อน ๆ แต่เชดด้าชีสที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมักมีสีสันตั้งแต่เหลืองอ่อนไปจนถึงสีส้มเข้ม สีส้มเฉดต่าง ๆ นี้เกิดจากการเติมสารสีธรรมชาติที่เรียกว่า Annatto ซึ่งไม่มีผลต่อรสชาติแต่อย่างใด ดังนั้น หากคุณเลือกซื้อเชดด้าชีสที่มีสีส้ม ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ เพราะไม่มีผลต่อรสชาติแต่อย่างใด สามารถเลือกซื้อได้ตามสีที่ถูกใจ แต่ควรสังเกตส่วนประกอบบนฉลากทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ซื้อเชดด้าชีสที่มีสีผสมอาหารสังเคราะห์
4.เลือกเชดด้าชีสที่มีเครื่องหมาย อย. เป็นหลัก
เชดด้าชีสเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรองหรือเครื่องหมาย อย. ปรากฏอยู่บนฉลาก เพราะเป็นเครื่องหมายแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วว่ากระบวนการผลิตเป็นไปตาม GMP (Good Manufacturing Practice) มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภค